รีวิว Okura Prestige Bangkok

Advertisement
โรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพ

Okura ถือเป็นโรงแรมสัญชาติญี่ปุ่่นแท้ๆ มีโรงแรมในเครือกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆหลายทีเลยครับ โดยธรรมดา Okura จะถือว่าเป็นโรงแรม 5 ดาวในประเทศญี่ปุ่นเอง ( แต่เมื่อเทียบกับโรงแรมเชนของเมืองนอกในระดับเดียวกันแล้วในบางสาขาอาจจะดูดรอปๆลงไปสักนิด )  แต่ในไทย Okura ได้อัพมาตรฐานจากเดิมให้กลายเป็นแบรนด์โรงแรม 5 ดาว++เทียบระดับกับโรงแรมระดับเชนเมืองนอก 5++ หลายๆแบรนด์ได้เลยครับ โดยใช้ชื่อว่า Okura Prestige bangkok และถือว่าเป็น  Okura Prestige ที่แรกของโลกด้วยครับ โดยคอนเซ็บของโรงแรมนี้จะเป็นความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับความทันสมัย ธีมที่ใช้ในโรงแรม ก็ตกแต่งออกมาสไตล์เรียบแต่หรู สีที่ใช้ก็จะเน้นสีน้ำตาลทองและขาวเทาดำเป็นหลัก ….มาครับ มากับผม ผมจะพาเพื่อนๆไปสำรวจที่นี่กัน

ขอเริ่มจากแผนที่ก่อนครับ การเดินทางมาที่นี่ไม่ยากเลย เพราะโรงแรมตั้งอยู่ในตึกปาร์คเวนเจอร์ เพลินจิต เดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าสะดวกมากมายเลยล่ะครับ มาลงที่สถานีเพลินจิตแล้วเดินเข้าตึก ปาร์คเวนเจอร์ ไปได้เลยครับ

เมื่อเข้ามาถึงเราจะเจอลอบบี้ขั้นล่างก่อนครับ ลอบบี้ที่นี่ไม่ใช่ ลอบบี้ของโรงแรมนะครับ แต่ที่นี่เป็นเหมือนส่วนต้อนรับส่วนหน้าให้กับแขกที่คนที่จะเข้ามาสัมผัสโรงแรม ใครจะไปงานตามห้องบอลลูมต่างๆสามารถขึ้นยันไดเลื่อนจากจุดนี้ไปได้เลยครับ แต่ถ้าใครอยากจะขึ้นลิฟท์ก็มีบริการเหมือนกันนะครับ โดยใช้ลิฟตัวเดียวกับที่ขึ้นไปเมนลอบบี้ ครับ

ภายในชั้นนี้จะมีร้านขายดอกไม้ด้วยครับ ใครที่จะมางานตามห้องบอลลูม ไม่ต้องไปหาซื้อดอกไม้ที่ไหนหอบมาให้เฉาเลยครับ สั่งจากตรงนี้ มารับแล้วขึ้นงานไปเลย สะดวกมากมาย

ส่วนใครที่จะต้องไปใช้บริการของโรงแรม กดลิฟท์ ไปชั้น 24 โลดเลยครับ ชั้นที่ 24 จะเป็น Main Lobby ของโรงแรมครับ อย่างที่บอกไปธีมของที่นี่จะเน้นการตกแต่งเรียบหรูเข้าว่า

ในส่วนที่อยู่ติดกับ Main Lobby คือ UP & ABOVE Bar ครับ ที่นี่จะมีบริการเครื่องดื่ม เสน็ค และ อาฟเตอร์นูนที หลายรูปแบบไว้บริการครับ ( ไม่ฟรี นะคร้าบบบบ )

จากที่ได้ลองชิม อาฟเตอร์นูนที ที่นี่มา ผมว่า….มันเจ๋งมากกกกกก เจ๋งกว่าหลายๆโรงแรมที่ผมเคยทานมาเลยครับ เซ็ตนี้ชื่ออะไรจำไม่ได้ แต่ผมขอเรียกว่า ชอคโกแลตเบนโตะ แล้วกันนะครับ เซ็ตนี้เป็นเซตสำหรับคนรักชอคโกแลตเลยล่ะครับ ทุกอย่างในเซ็ตนี้จะมีชอคโกแลตเป็นส่วนประกอบ ราคา 750++ ทานได้ 2 คน พร้อมเครื่องดื่มร้อนเย็น 2 ชุด

เซ็ตนี้ชื่อว่า Traditional Set ครับ เป็นเซ็ตที่หลายๆโรงแรมเขามีกัน ใครชอบแบบอร่อยแต่ทานแล้วอยู่ท้อง จัดเซ็ตนี้ไปครับ  เซ็ตนี้มีดีที่ขนมปังครับ มัน… นุ่มมากกกกกกกกก ถึงแม้ว่าจะทิ้งไว้นานแต่ก็ยังนุ่มอยู่ สโคนก้อร่อยนะครับถึงแม้หน้าตามันจะเหมือนซาลาเปาไปสักนิด แต่หอมเนยไม่มีกลิ่นแป้งด้วยครับ เซ็ตนี้ ราคา 640++ ทานได้ 2 คน พร้อมเครื่องดื่มร้อนเย็น 2 ชุด เช่นกันครับ

ในส่วนของบาร์ข้างนอก เราจะสามารถชมวิวของกรุงเทพเมืองฟ้าอมรกันได้เต็มๆครับ ใคร ชอบวิวงามๆของกรุงเทพ คงมีได้ปลื้มที่นี่กันบ้างล่ะ บรรยากาศดีทั้งกลางวันและกลางคืนเลยครับ ( ถ้าฝนไม่ตกนะ )

Up & Above ( แปลว่า ขึ้น เหนือ ? ) ห้องอาหารที่เรียกว่า All day dinning และเป็นห้องอาหารเดียวครับที่มีบุฟเฟ่ (ในตอนเช้าและเที่ยง) พาไปชมบรรยากาศกัันก่อนนะครับ

เราไปชมไลน์อาหารเช้ากันก่อนดีกว่า ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าไม่ได้ยังชิมแค่เดินไปถ่ายมาเฉยๆ เพราะฉะนั้นอะไรรสชาติเป็นยังไงคงไม่ต้องถามนะครับ เพราะตอบไม่ได้แน่ๆครับ  T_T

ส่วนมื้อเที่ยง จะมีลูกเล่นหน่อยครับ เพราะมีหลายแบบให้เลือก
1.มินิบุฟเฟ่
2.มินิบุฟเฟ่+คอร์สอาหาร 2 หรือ3
จะสังเกตได้ว่าอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็น คานาเป้ และ ซีฟู้ด จะเน้นเป็นอาหารแบบไม่หนักมากครับ ส่วนขนมหวานจะเสริฟแยกต่างหากไม่รวมอยู่ในไลน์ครับ วันที่ไปทานเป็นไอศครีมเชอเบทกับผลไม้ แซบมากกกกกก ขอบอก 55555

3.ชุดเบนโตะ ประจำวัน ( บ๊อกเซ็ต อาหารไทย+อาหารตะวันตก )
วันที่ไปทานวันอังคาร เป็นเซ็ตข้าวผัดกุ้ง+ซุปหัวหอม+ปอเปี๊ยทอด+สลัดผลไม้ ครับ

ห้องอาหาร Yamazato ห้องอาหารสัญชาติญี่ปุ่นแท้ๆๆ Yamazato ถือเป็นห้องอาหารแรกของญี่ปุ่นเลยครับที่เปิดให้บริการโรงแรมในสมัยก่อน เพราะฉะนั้นห้องอาหารนี้จึงมีประวัติในญี่ปุ่นมายาวนานมากจริงๆครับ ที่นี่จะทั้งซูชิบาร์ เทปันยากิเคาเตอร์ และ อาหารเซ็ตหรืออราคาร์ต ( ไคเซกิ เรียวริ ) โดยแบ่งเสริฟอาหารเป็น 3 ช่วงครับ

อาหารเช้า เป็นแบบเซ็ตครับ ไม่มีให้เลือกนะครับมีเซ็ตเดียวเอง โดยจะเสริฟหลักๆเป็นปลาย่าง มิโซะซุป และผักต้ม เสริฟพร้อมเครื่องเคียงมากมายครับ  รสชาติอาหารจะออกมาสไตล์เรียบง่าย ไม่เลี่ยน ไม่มัน ไม่เผ็ด และจะมีผลไม้ตบท้ายให้ด้วยครับ เราสามารถเติมข้าวได้เรื่อยๆนะครับ ส่วนกับข้าว เติมบ่ได้ก๊าบบบบ

ส่วนมื้อกลางวัน ยังไม่ได้ลองครับ ของเด็ดของจะหนีไม่พ้นเซ็ตลันช์ ในราคาที่เอื้อมถึงครับ

ส่วนมื้อเย็น ก็ยังไม่ได้ลองเช่นกัน ของเด็ดจะอยู่ที่เซ็ต ไคเซกิ เรียวริ (เซ็ตอาหารที่จัดถวายแด่แขกบ้านแขกเมืองและจักรพรรดิ์ญี่ปุ่น) ราคาเซ็ต/คน ราคาเริ่มต้นที่ 4500++ เท่านั้นเองก๊าบบบบบ

Element ห้องอาหารตะวันตกก็ยังไม่มีโอกาสได้ชิมอะไรทั้งนั้นเช่นกันครับ T__T ที่นี่จะเปิดบริการในช่วงเย็นเท่านั้น ชมบรรยากาศกันไปแทนนะครับ

เอาล่ะครับเราไปดูในส่วนของMain Pool กันดีกว่า สระว่ายน้ำที่นี่อยู่ชั้นเดียวกับ ห้องอาหาร Element เลยครับ จุดขายของที่นี่คือดีไซน์เรียบๆเก๋ๆของสระว่ายน้ำ และ วิวมองเมืองฟ้าอมรในมุมสูงๆๆ

ฟิตเนสอยู่หลังสระว่ายน้ำนี่เองครับ เปิด 24 ชั่วโมง ครับ

Okura Spa มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่การตกแต่งถือว่างดงามทีเดียวครับ ของเด็ดของที่นี่คือ สปาไม้ไผ่ครับ เป็นยังไงน่ะเหรอครับ เออ…ไม่ทราบเหมือนกันเพราะยังไม่ได้ทดลองเลยครับ ใครลองแล้วมาบอกผมด้วยนะครับ แหะๆ

Exclusive Lounge สำหรับผู้ที่จองห้องพักในเรทที่รวมตัวนี้ไปด้วย ก็จะคล้ายๆเหมือนโรงแรมอื่นๆ คือ มีอะไรกินทั้งวัน แสน็ค ขนม ในตอนบ่ายๆ และ Cocktail & Canape ในตอนเย็นๆ แต่จะแตกต่างจากโรงแรมอื่นขนาดไหนนั้นบอกไม่ได้ครับ เพราะมีเวลาสัมผัสอยู่แค่ แป๊ปเดียวเองครับ

DELUXE ROOM ห้องระดับเริ่มต้นของที่นี่ ผมว่าแค่ระดับเริ่มต้นก็หรูแล้วล่ะครับ

DELUXE CORNER คือห้องในระดับที่ 2 ของโรงแรม ห้องนี้มีดีที่ วิวครับ ชมวิวกรุงเทพกันได้แบบเต็มอิ่มจุใจทีเดียว

ชุดชาในห้องพัก เป็นแบบใบชาครับ

ชุด Amenities ของโรงแรมจัดอยู่ในกล่องสวยงามหรูหรา

แผงวงจรควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้องพัก ทุกอย่างควบคุมด้วยเจ้านี่แหละครับ

คีย์การ์ด สีขาวสำหรับห้องสวีท และสีน้ำตาลสำหรับ ห้องระดับธรรมดาครับ

Night Gift เป็น โอริกามิ เซ็ตนี้ครับ

ชุดยูกาตะ ไม่มีคงไม่ได้เป็นแน่แท้

ภายในตู้เสื้อผ้าครับ

ห้องสุขาขนาดกระทัดรัดภายในห้องพัก

ระบบชักโครก ถูกควบคุมด้วยเจ้าตัวนี้ครับเหมือนที่ญี่ปุ่นเลยยยย

ในส่วนของบทสรุป

ผมคงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้นะครับ ไม่กล้าที่จะเขียนข้อดีข้อเสียลงไปจริงๆ เพราะจริงๆแล้วผมก็ยังไม่มีโอกาสได้พักที่นี่เลย มีโอกาสแค่ไปสัมผัส และใช้บริการในส่วนเท่านั้น ( ห้องอาหาร ) แต่ในจุดที่ไปใช้บริการมาก็บริการดีได้ใจอยู่นะครับ ^__^

และของแถมท้าย กับห้อง PRESIDENTIAL SUITE

Leave a Reply