รีวิว Banyan Tree Phuket Laguna (Bangtao Beach)

ภูเก็ตอีกแล้ว ก็ภูเก็ตอีกแล้วนะซิ 5555 วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับรีสอร์ทราชนิกูลอย่าง Banyan Tree Phuket กันบ้าง ผมเชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะ รู้จัก และคุ้นเคย Banyan Tree กันดีอยู่แล้ว  ในประเทศไทย Banyan Tree มีด้วยกัน 3 ที่เท่านั้น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และ สมุย (ที่หัวหินไม่ใช่นะครับ)

Banyan Tree คืออะไร

บันยันทรี หรือ โรงแรมต้นไทร เป็นโรงแรมที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสิงคโปร์ โดยเน้นกลุ่มตลาดค่อนมาทางระดับบนหรือตลาดไฮเอนนั้นเอง กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่ชอบความเงียบสงบ เน้นในเรื่องการบริการ และใส่ใจเรื่องการเลือกใช้ของที่ดีเป็นหลัก ในเรื่องดีไซด์โรงแรมอาจจะค่อนไปทาง traditional (แบบดั้งเดิม) หรือที่คนไทยเรียกกันว่าน้องโบ(ราณ)ไปสักหน่อย  โรงแรมที่อยู่ในกลุ่มตลาดเดียวกันนี้ก็จะมี โอเรียลเต็ล เพนนิซูล่า สุโขทัย แชงการีล่า เป็นต้นฮะ

Banyan Tree Phuket Laguna ถือเป็นโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ และ หรูหราที่สุด ที่อยู่ในโซนลากูน่าแห่งนี้ เนื่องด้วย Banyan Tree เป็นโรงแรมที่เน้นความสงบ ที่นี่จึงถูกวางไว้ที่สุดขอบลากูน่าเลยครับ เพราะจุดนี้ถือเป็นจุดที่เงียบสงบ และมีพื้นที่กว้างที่สุด (มีสนามกล๊อฟรวมอยู่ในโซนนี้ด้วยฮะ)

เรามาเริ่มทำความรู้จัก Banyan Tree Phuket จากจุดนี้กันครับ Main Lobby ลอบบี้ริมทะเลสาบ ที่บ่งบอกถึงความเป็นบันยันทรีได้เป็นอย่างดี สวย สงบ และ traditional ได้อีก ลอบบี้เป็นลอบบี้โอเพ่นแอร์สไตล์รีสอร์ทที่เขานิยมกัน ( ทำมั้ยเขาถึงนิยมแบบนี้กันเนอะไม่ค่อยเข้าใจเหมือน ร้อนก็ร้อน ฝนตกก็สาดเนอะ )

เมื่อมาเช็คอินที่นี่จะเสริฟเวลคัมเซ็ต เป็นเซ็ตนี้ฮะ ตัวน้ำอ่ะธรรมดา แต่คุกกี้นี่สิ อร่อยมาก เป็นคุกกี้กุ้งแห้งฮะ รสชาติเค็มๆมันๆหอมๆ

จุดขาย ของ Banyan Tree Phuket คือ พูลวิลล่าฮะ โดยจะแบ่งพูลวิลล่าเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ขออธิบายง่ายๆเลยนะ

Banyan Tree Pool Villas เราไปดู พูลวิลล่า ในระดับเริ่มต้นกันก่อน ตอนนี้ห้องนี้มีโปร อยู่ที่ 7999 บาทพร้อมอาหารเช้า สำหรับ สองท่าน ตัวนี้เป็นห้องพักระดับพูลวิลล่า ไม่เน้นออฟชั่นเสริมอะไรมากมาย เน้นใช้เฟคซิลิตี้ของโรงแรมเป็นหลัก อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่าการออกแบบ Traditional  ได้อีก เข้าใจหรือยังฮะ ว่ามันดั่งเดิมกันขนาดไหน

ห้องนี้เป็นห้องเริ่มต้นที่มีโปรช่วงหน้าฝนที่ 7999 บาทพร้อมอาหารเช้าอยู่ฮะ ขนาดพื้นที่ใช้สอยนับจากภายนอกถือว่ากว้างขวางมากทีเดียว  เรียกว่าพื้นที่เหลือเฟือที่จะตั้งวง….(จงเติมคำในช่องว่างเอาเอง) ได้หลายวงเลยล่ะ

ภายในห้องพักก็ไม่ได้เก่าเลยนะฮะ เพราะห้องพักโซนนี้เป็นห้องที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทหรือปรับปรุงใหม่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตัวห้องนอน อาจไม่ได้ใหญมาก แต่ห้องน้ำใหญ่กว่าห้องนอนนะ

Banyan Tree Pool Villas ก็จะมีห้องหลายระดับไล่ขึ้นไป ต่างกันที่วิว ขนาดจำนวนห้องนอนและขนาดความใหญ่ของสระว่ายน้ำ

Banyan Tree Spa Sanctuary

พูลวิลล่าขนาดใหญ่  ที่เน้นเอาใจคนชอบทำ สปา เป็นหลัก สามารถทำสปาแบบอันลิมิตภายในวิลล่าของเราเองได้เลย  วิลล่าโซนนี้จะมีความใหญ่โตเวอร์วังอยู่ประมาณนึง สระใหญ่ ห้องกว้าง ว่าแต่กว้างประมาณไหน? อธิบายไงดี เอาเป็นว่า มีพื้นที่ใช้สอยมากมาย ขนาดตั้งวง … ได้อย่างต่ำๆ 15 วง น่าจะได้ แต่วิลล่านี้มีข้อเสียที่ ดีไซด์ แอบ Traditional ไปสักนิดแอบโบไปสักหน่อย

ป.ล. ในวิลล่าประเภทนี้ ทุกๆบ่ายจะมีเสริฟ  afternoon tea set ฟรีด้วยฮะ

DoublePool Villas by Banyan Tree

ห้องพักระดับพูลวิลล่าขนาดใหญ่(มากกกกไป) ห้องนี้มีสระว่ายน้ำให้เล่นกันถึงสองสระ สระนึงจะอยู่ในห้องนอน อีกสระอยู่ข้างนอกเป็นสระว่ายน้ำวิวทะเลสาบฮะ ด้วยความที่เป็นห้องที่แพงที่สุด ขนาดห้องก็เลยใหญ่โตมากมากกว่าห้องไหนๆ แถมออฟชั่นพิเศษก็จะเน้นไปที่เรื่องบริการเป็นหลัก เพราะมีบัตเลอร์ดูแลเอาใจใส่ตลอดเวลา เรียกว่า 24 ชั่วโมงมีคนปรนนิบัติพัดวีตลอดเวลากันเลยล่ะ ใครอยากใช้ชีวิตเยี่ยงราชนิกูลก็ต้องพักห้องระดับนี้แหละฮะ

ในห้องพักระดับบนี้จะมี ขนมช่วงบ่ายสี่โมง มาเสริฟทุกวันฮะ เป็นไอติมโฮมเมดแสนอร่อย วันที่ไปแอบขอชิมมาได้โคนนึง เป็นไอติมมะม่วงสุก หวานหอม อร่อยมากกก

ในส่วนของอาหารเช้า ผมถือว่าเป็นไม้ตายของที่นี่เลยล่ะ อาหารเช้าโดยหลักๆจะถูกแบ่งเป็น สองส่วน

1 อาหารเช้าในวิลล่า

สำหรับคนที่ไม่อยากออกไปไหน อยากใช้ชีวิตแบบสวีทวี้ดวิ้วกันสองคน  จะทานอาหารเช้าบนเตียง หรือ เล่นน้ำไปกินอาหารเช้าไป ก็ทำได้หมด ผมแนะนำให้ใช้บริการนี้ วิธีใช้บริการก็ง่ายมากก แค่เลือกเมนู และบอกเวลาเขาไว้ล่วงหน้า 1 วันฮะ บริการนี้ฟรีนะฮะ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

ข้อเสียคือ ตัวเลือกที่เลือกได้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารฝรั่งฮะ

ข้อดีคือ เราสั่งมาทีเดียวกินเหลือตุนไว้กินเที่ยงได้ฮะ คุ้มมว้ากกกกก 555555

2 อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์

ใครไม่ขี้เกียจ และชอบกินอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ผมขอบอกเลยว่าคุณต้องไม่พลาดอาหารเช้าแบบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหาร The Watercourt ของที่นี่ เพราะมันอลังมากกกกก สอบถามราคามา ถ้าแขกนอกมาทานจะคิดคนล่ะ 1500++ ทีเดียว ไอเทมที่ลงนอกจากจะเลือกใช้วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมจริงๆแล้ว เมนูที่เลือกเอาจัดบุฟเฟ่ต์ยังอล้าอลังได้อีก ประหนึ่งบุฟเฟ่ต์อาหารมื้อเย็นกันเลยก็ว่าได้ วันที่ผมไปนั้น เห็นมีไม้ตายไม้เด็ดอยู่หลายตัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวากิวผัดน้ำมันหอย หมี่หุ้นแกงปู  ซูชิ+ซาซิมิ ปลาแซลม่อน ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ โอ้ย ตาลาย เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ขี้เกียจออกจากวิลล่าอะไรมากมาย ผมขอชี้แนะให้เลือกมาทานอาหารเช้าที่นี่จะดีกว่าฮะ กินกันเพลินเลยล่ะฮะ

คือ แต่ล่ะเมนู เรียกว่านั่งทีไม่อยากลุกไปไหนเลย เอาล่ะๆๆ พักเบรกเรื่องกินกันไว้สักนิด เมื่อกี้พาไปทานอาหารเช้ามาแล้ว เราไปออกกำลังกายด้วยการเดินเล่นรอบโรงแรมกันบ้างดีกว่า นอกจากพื้นที่ใช้สอยในวิลล่าแล้ว ที่นี่ยังมีพื้นที่ส่วนกลางมากมาย ไว้บริการด้วยฮะ

สระว่ายน้ำส่วนกลางจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสระว่ายน้ำในสวนมะพร้าวขนาดอาจไม่ใหญ่ไม่โต แต่ลดเลี้ยวคล้ายๆส่วนน้ำขนาดย่อมๆ

อีกสระเป็นสระที่เอาไว้ว่ายออกกำลังกาย มีขนาดใหญ่โตเวอร์วังพอดู ทั้ง2 สระจะเชื่อมกันไม่ได้แยกออกจากัน ความสวยเรียกว่าไม่น้อยหน้าโรงแรมไหนๆเลยฮะ

 

ในสระว่ายน้ำนี้จะมีอยู่โซนนึง เป็นโซนฟิตเนสในน้ำ ซึ่งคนดูแล้วอาจจะแปลกๆ มีมาทำมั้ย แต่มันเหมาะกับแขกที่มีน้ำหนักตัวมากๆหรือแขกที่มีปัญหาเข่าฮะ

ส่วนใครต้องการออกกำลังกายแบบจริงจัง ก็ต้องที่ฟิตเนส นี่เลยฮะ ขนาดก็ใหญ่โตพอประมาณ มีอุปกรณ์ใช้สอยครบครันเลยฮะ

ใกล้ๆกับฟิตเนสก็มีคิดโซนด้วย ช่วงที่ไป ยังไม่เรียบร้อยดี น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอีกนิดหน่อยครับ

Banyan Tree Spa

ถือเป็นไม้ตายของที่นี่ก็ว่าได้ฮะ เพราะน่าจะเป็นสปาโรงแรมแห่งเดียวในูเก็ตที่มีโรงเรียนสอนสปาแบบจริงจังเป็นของตัวเอง เอาตรงๆโรงเรียนสปาแห่งนี้มีหน้าที่ผลิต Therapist (คนนวด) ให้กับโรงแรม 5 ดาวทั่วโลกเลยฮะ เพราะฉะนั้น เรื่องสปาของที่นี่จึงถือว่าเป็นที่ 1ไม่เป็น 2 รองที่ไหนจริงๆ

เรื่องดีไซด์บอกตรงๆว่าแอบขัดใจผมไปสักหน่อย แต่เนื่องด้วยแขกส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นชาวต่างชาตจิ การตกแต่งแนวนี้จึงอาจจะเหมาะกับแขกส่วนใหญ่แล้วก็ได้ฮะ

ไม้ตายของที่นี่คือ ถุงใส่สมุนไพรคล้ายลูกประคบนี่แหละฮะ มันอาจจะดูคล้ายๆลูกประคบนะครับ แต่ฟีลลิ่งไม่เหมือนกันนะ ใกล้เคียงกัน ไม่เหมือนกันสักทีเดียว ผมอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก แต่บอกเลยว่า ตั้งแต่ทำสปามาเพิ่งเจอที่นี่ทีเดียวเองฮะ

ทำสปาเสร็จแล้ว เรากลับไปลุยเรื่องอาหารแบบจัดหนักกันดีกว่า

The Watercourt นอกจากจะใช้เป็นห้องอาหารสำหรับมื้อเช้าแล้ว ในช่วงเย็นที่นี่จะเปิดเป็นห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนี่ยนด้วยฮะ ขอพาไปชมบรรยากาศกันก่อนเนอะ

ที่นี่ในช่วงมื้อเย็นจะเน้น อาหารซีฟู้ดและอาหารเมดิเตอร์เรเนี่ยนเป็นหลัก ในเรื่องความสดของวัตถุดิบ บอกเลยว่าต้องกราบเท่านั้น ในส่วนเรื่องรสชาติ ถามว่าโอมั้ย ขอตอบตรงๆ ว่าโอฮะ อาจมีติดรสเอาใจฝรั่งบ้าง แต่ด้วยความสดของซีฟู้ดที่สดมากจริงๆก็แก้เกมส์ไปได้ทุกอย่าง ในส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ด ผมว่าอาจต้องปรับรสให้ถูกปากคนไทยมากกว่านี้นะฮะ ในเรื่องราคา ถ้าเป็นเมนูอาหารทั่วไปพอได้นะฮะ แต่เป็นซีฟู้ด นี่ทำใจกันนิดนึงเนอะ

เรื่องความสดของอาหารซีฟู้ดไว้ใจได้ฮะ แต่ในเรื่องราคา อาจต้องทำใจกันสักนิดนะผมว่า

จานนี้ รีซอตโต้ซีฟู้ด ยอมรับว่ารสดีจริงๆ ครีมมี่มากกกกก

ปลาเผาเกลือสไตล์อิตาเลี่ยน ตัวใหญ่มากกกก ปลาดสดสุดๆๆๆๆ แต่ น้ำจิ้มซีฟู้ดแนะนำเลยว่า ให้ปรับปรุงรสชาติอย่างด่วนๆ

อันนี้เป็นสลัดอโวคาโด้กุ้งสด รสชาติอร่อยดีนะ

Saffron ห้องอาหารไทย ของที่นี่ฮะ ที่นี่ถือเป็นห้องอาหารไฮเอนอีกร้านของที่นี่ โดยรวมรสชาติเป็นอาหารไทยที่อาจติดรสฝรั่งไปนิด แต่วัตถุดิบเลือกใช้ของพรีเมี่ยมทั้งหมดจริงๆ ในเรื่องราคา ไม่ต้องวห่วงครับ ราคาแอบแรงพอดู 555555 ทำเลที่ตั้งจะอยู่ในลอบบี้ฮะ ตั้งอยู่ด้านบนของห้องอาหาร The Watercourt

ป.ล. ที่นี่เราจะสั่งแต่อาหารนะฮะ ข้าวสวยเสริฟฟรี

ก่อนเสริฟอาหารมื้อเย็น เราจะต้องล้างมือจากน้ำลอยดอกมะลิกันก่อนด้วยฮะ เรียกว่าแปลกไม่เคยเจอห้องอาหารไทยที่ไหนทำแบบนี้ น่ารักดีนะผมว่า ( อาจเป็นพระว่า ผมชอบดอกมะลิด้วย )

อันนี้เป็นออเดริฟ แจกฟรีทุกโต๊ะ เกร๋น่ารักไม่เหมือนใคร

เมนูแรกที่ได้ลอง ออเดริฟ ไทย ก็จะมียำหัวปลี กุ้งโสร่ง สเต๊ะไก่ เบือทอด ปอเปี้ยะสด รสชาติอร่อยนะฮะ แต่เป็นรสไทยอ่อนๆ ไม่เน้นจัดจ้านนะครับ ใครที่ไม่ชอบอาหารไทยรสจัดจ้านน่าจะชอบนะ

เมนูนี้ยำถั๋วพลู หอยเชล ผมว่ารสชาติโอเคนะฮะ วัตถุดิบดีมากกกกก แต่ก็ยังติดรสเอาใจฝรั่งอยู่ดี

เมนูนี้ มัสมั่นแกงแก้วตา  ตัวแกงมาแบบกลางๆอีกแล้วฮะ แต่ค่อนมาทางไทยมากกว่าเมนูอื่นนะ เสริฟพร้อมโรตีที่เข้ากันมากกกกกกก เมนูนี้ผมให้ผ่านฮะ กราบบบบบ

ไอติมกะทิสด เสริฟพร้อมฝอยทอง เสริฟมาพร้อมกับทับทิมกรอบฮะ เมนูนี้โอเค ผ่านฉลุย (เพราะชอบกินหนมไทยอยู่แล้ว)

Tamarind  ห้องอาหารญี่ปุ่น (ทำมั้ยชื่อมะขามหว่า แอบงง ) ห้องอาหารนี้ตั้งอยู่บริเวณเมนพูลฮะ เสริฟอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม จากเชฟญี่ปุ่นเลยฮะ เชฟบอกว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่อิมพอร์ตเข้ามาจากญี่ปุ่นด้วยเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลในเรื่อความดีงามของวัตถุดิบและรสชาติ ไปกังวลเรื่องราคาอย่างเดียวเท่านั้นพอฮะ 555555555 เพราะเมนูสั่งเป็นจานๆก็นะ เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงกันนะ สั่งเป็นเซ็ตคุ้มมากกว่าฮะ บอกเลย

ซาซิมิรวม บอกเลยว่าสดมาก อร่อยมากกกกกกกกก กราบๆๆๆๆ เจอราคาเข้าไปยิ่งต้องกราบๆๆๆๆ ใหญ่เลย

ปลาหิมะย่างเกลือ แอบไหม้ไปนิด แต่อร่อยมากเลยนะฮะ ปลื้มมมมมมม

ข้าวห่อสาหร่ายไส้กุ้งทอด อันนี้ผมเฉยๆเพราะไปกินที่นาโกย่ามาเจ้านึง ฟินมากกกกกกกกกกกกกกกก

สลัดปลาดิบ อร่อยมากกกกกก (แมร่งอร่อยทุกอย่าง พูดไปแล้วก็เหมือนสตรอ แต่มันอร่อยจริงๆนะ)

เนื้อวากิว เทปันยากิ อันนี้ ก็อร่อยอีกล่ะ

ส่วนห้องอาหารสุดท้าย อยู่ที่สนามกล๊อฟฮะ( สนามกล๊อฟอยู่ตรงข้ามลอบบี้เลยฮะ)  เป็นร้านอาหารที่ราคารับได้ที่สุด กินสวยๆวิวสนามกล๊อฟครับ  อาหารจะเน้นอาหารง่ายๆ และขนาดจานใหญ่ ไม่เน้นการตกแต่งอลังนะ รสชาติ ก็ยังติดกลางๆเอาใจฝรั่งอยู่ฮะ แต่รสใกล้เคียงคนไทยมากกว่าร้านไหนๆนะฮะ จะสั่งอะไรบอกเลยฮะว่าขอรสไทยๆ

ปิดท้ายที่หาดกันบ้างเนอะ ด้วความที่หาดอยู่นอกตัวรีสอร์ท และมีถนน 1 เลน กั้นอยู่ ถจึงไม่สามารถบอกได้ว่าที่นี่ติดหาด แต่เรียกว่าเดินมาได้ ไม่ลำบากจะดีกว่า ( แต่อย่าเดินเลย เรียกรถบักกี้มาส่งเถอะ ไกลขาหลุดอยู่นะ) ตัวหาดเป็นหาดเดียวกับ อังสนา  คือหาดบางเทาฮะ หาดนี้ พระอาทิตย์ตกสวยอยู่นะ

สรุปปิดท้าย

ไม่รู้ว่าจะสรุปอะไร บอกตรงๆ เพราะผมว่า คนไทยเราเข้าใจในความเป็น บันยันทรีดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่เราๆเข้าใจเลยครับ ดีงาม พระราม 5 ไม่มีข้อกังขาใดๆแน่นอน ตัวโรงแรมอาจจะเหมาะกับคนที่อยากนอนพูลวิลล่าแบบส่วนตัว เหมาะทั้งกลุ่มครอบครัว คู่รัก เน้นที่ความอยู่สบาย อาหารเช้าดีๆ และ บริการดีๆ เป็นหลัก ไม่เน้นที่ดีไซด์และเรื่องติดริมทะเลฮะ  ขอย้ำว่า บันยันทรีภูเก็ต ไม่เก่าจริงๆนะฮะ เพราะจากการที่ได้ไปสัมผัสบันยันทรีที่เพิ่งสร้างที่หาดลังโค ประเทศเวียดนามมา บอกได้เลยว่าไม่ต่างกันมากฮะ